อาการและอาการแสดง ของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

อาการของ-19[4]
อาการ[4]พิสัย
ไข้83–99%
ไอ59–82%
เบื่ออาหาร40–84%
อ่อนเพลีย44–70%
หายใจกระชั้น31–40%
ไอมีเสมหะ28–33%
ปวดกล้ามเนื้อ11–35%

ไข้เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด แม้ผู้สูงอายุและผู้มีปัญหาสุขภาพอื่นบางส่วนอาจมีไข้ได้ในระยะหลัง ๆ ของโรค[4] ในการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ป่วย 44% มีไข้เมื่อมาโรงพยาบาล ส่วน 89% มีไข้ในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่างรับรักษาในโรงพยาบาล[4][33] การปลอดไข้ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นไม่ป่วย

อาการทั่วไปอื่นได้แก่ ไอ, เบื่ออาหาร, อ่อนเพลีย, หายใจลำบาก, มีเสมหะ, และปวดกล้ามเนื้อและข้อ[1][4][5][34] อาการอย่างคลื่นไส้ อาเจียนและท้องร่วงพบมากน้อยต่างกัน[35][36][37] อาการที่พบน้อยลงมาได้แก่จาม คัดจมูก เจ็บคอและมีรอยโรคผิวหนัง[38] ผู้ป่วยบางรายในประเทศจีนมาโรงพยาบาลด้วยอาการแน่นหน้าอกและใจสั่นเท่านั้น[39] อาจมีสัมผัสรับกลิ่นและรสลดลงได้[40][41] ภาวะเสียการรู้กลิ่นเป็นอาการนำในผู้ป่วยยืนยันแล้ว 30% ในประเทศเกาหลีใต้[11][42]

ผู้ป่วยบางรายในประเทศจีนเริ่มต้นแสดงอาการด้วยแน่นหน้าอกและใจสั่น ในการศึกษาหนึ่งพบว่ามีผู้ป่วยเพียงครึ่งหนึ่งที่มีไข้เมื่อเริ่มต้นรับรักษาในโรงพยาบาล แต่ 89% จะมีไข้ในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่างรับรักษาในโรงพยาบาล ไข้และปัญหาทางเดินหายใจปรากฏได้ภายหลังทั้งในผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วยบางรายที่มีโรคร่วม บางรายอาจทรุดลงไปเป็นปอดบวม ความล้มเหลวหลายอวัยวะ และเสียชีวิตได้ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ตรงแบบเมื่อเริ่มปรากฏอาการจนถึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจใช้เวลาแปดวัน

ระยะฟัก (ระยะเวลาตั้งแต่ติดเชื้อไวรัสจนกระทั่งแสดงอาการ) สำหรับ โควิด-19 ตรงแบบเวลาห้าถึงหกวัน แต่อาจอยู่ในช่วงสองถึง 14 วัน[6][43] โดยผู้ป่วยประมาณ 10% มีระยะฟักนานกว่านั้น[44][45][46]

ผู้ป่วยส่วนน้อยไม่มีอาการที่สังเกตได้เลยตลอดการป่วย[47][48] พาหะไม่มีอาการเหล่านี้มักไม่ได้รับการทดสอบ และบทบาทในการแพร่เชื้อยังไม่ทราบอย่างสมบูรณ์[49][50] อย่างไรก็ดี หลักฐานเบื้องต้นเสนอว่าพวกเขาอาจส่งเสริมการแพร่ของโรค[51]

ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนอาจได้แก่โรคปอดบวม กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) กลุ่มอาการการทำหน้าที่ผิดปกติของหลายอวัยวะ ช็อกเหตุพิษติดเชื้อและเสียชีวิต[9][13][52][53] ภาวะแทรกซ้อนระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจได้แก่หัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจเสียจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและภาวะลิ่มเลือดหลุดอุดหลอดเลือดดำ[54] ผู้ป่วยโควิด-19 สัดส่วน 20–30% มีเอนไซม์ตับสูงขึ้นซึ่งสะท้อนการบาดเจ็บของตับ[55][56] อาการแสดงทางระบประสาท ได้แก่ ชัก, โรคหลอดเลือดสมอง, สมองอักเสบ, และกลุ่มอาการกิลแลง–บาร์เร (ซึ่งรวมอัมพฤกษ์ครึ่งซีกด้วย)[57] หลังการติดเชื้อ เด็กอาจเกิดกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบในเด็ก (paediatric multisystem inflammatory syndrome) ซึ่งมีอาการคล้ายกับโรคคาวาซากิ ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้[58][59]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 http://www.bccdc.ca/resource-gallery/Documents/Gui... http://weekly.chinacdc.cn/en/article/id/e53946e2-c... http://en.nhc.gov.cn/2020-02/07/c_76337.htm http://rs.yiigle.com/yufabiao/1181998.htm http://www.columbia.edu/~jls106/galanti_shaman_ms_... http://med.stanford.edu/content/dam/sm/id/document... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18478118 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/20197533 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/22563403 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30463995